การเปลี่ยนแปลงนับหมื่น ก็ไม่ทำให้รู้สึกตระหนก

“Ten Thousand Changes, No Surprise” คำกล่าวของ อ.มะซะอะกิ ฮัทซึมิ อาจารย์ใหญ่ของบูจินกัน ประโยคนี้เป็นประโยคที่ อ.มะซะอะกิ อาจารย์ใหญ่ของบูจินกัน ได้บอกกล่าวกับลูกศิษย์ในการสอน ประโยคนี้ถ้าแปลตรงตัว ก็จะหมายความว่า “การเปลี่ยนแปลงนับหมื่น ก็ไม่ทำให้รู้สึกตระหนก” ประโยคนี้ฟังดูแล้วยาก บางคนอาจสงสัยว่าจะทำได้จริงหรือเปล่า ต้องเป็นยอดมนุษย์เท่านั้นถึงจะทำได้กระมัง

Continue reading »

เมื่อถึงเวลา…คุณจะเข้าใจ

หากมองแบบผิวเผินแล้ว การฝึกบูจินกันหลายๆครั้งจะดูเหมือนกัน ท่าที่ฝึกก็เป็นท่าเดิมๆ ไม่ว่าจะเป็นการรับการจู่โจม หรือ ukemi ท่ายืน ท่าพื้นฐาน หรือท่าที่ปรับจากท่าพื้นฐาน (henka) ผู้ฝึกอาจรู้สึกว่าไม่ก้าวหน้าอะไร นั่นไม่ใช่เพราะเราฝึกแต่สิ่งเดิมๆ แต่เป็นเพราะการฝึกของเรายังมาไม่ถึงจุดที่จะเราจะเข้าใจ ผู้สอนวิชาบูจินกันล้วนต้องการให้ลูกศิษย์มีฝีมือที่ก้าวหน้า มันเป็นความภูมิใจที่ได้เห็นลูกศิษย์ของเราพัฒนาฝีมือขึ้นทีละขั้นๆ ไปบนเส้นทางที่ถูกต้อง แต่บางครั้งการเร่งรัดก็ไม่ใช่สิ่งที่สามารถทำได้ คุณคงไม่สามารถขี่จักรยานได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ขึ้นนั่งบนอานจักรยาน คุณคงไม่สามารถว่ายน้ำได้ตั้งแต่การลงน้ำครั้งแรก คุณคงไม่สามารถเข้าถึงปฐมฌานในการนั่งสมาธิครั้งแรก

Continue reading »

ฝึกอุเกะมิ มา 10 ปีก็ยังน้อยไป

  สำหรับบูจินกันแล้ว ฝึก อุเกะมิ มา 10 ปีก็ยังน้อยไป ผมเคยได้ post ถึงความสำคัญของการฝึกอุเกะมิไปแล้ว แต่วันนี้จะขอ post เพิ่มอืกครั้ง คำว่า “อุเกะมิ” หากแปลตรงตัวจะมีความหมายว่า “การรับการกระทำ” ในบูจินกัน การฝึกอุเกะมิจะหมายถึงการฝึกรับเทคนิคของอีกฝ่ายหนึ่งอย่างปลอดภัย ตัวอย่างเช่น

Continue reading »

แนวทางการฝึกฝนตัวเองจากญี่ปุ่น

ทำไมต้องเดินทางมาฝึกบูจินกันที่ประเทศญี่ปุ่น เก่งขึ้นหรือเปล่า? คำตอบที่ง่ายที่สุด น่าจะเป็นการฝึกฝนให้ฝีมือเราดีขึ้น การฝึกศิลปะต่อสู้นั้นจะต้องอาศัยการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง สายดำระดับหนึ่งในบูจินกันนั้นเรียกว่า shodan ซึ่งมีความหมายว่า “ขั้นเริ่มต้น” ดังนั้นการได้รับสายดำระดับหนึ่งมิได้หมายความว่าเราเรียนจบแล้ว เรายังจะต้องพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง หากจุดประสงค์ในการฝึกของคุณคือการได้มาซึ่งสายดำ และคุณรู้สึกพอใจเพียงแค่นั้น ฝีมือของคุณจะหยุดนิ่งอยู่กับที่ ในขณะที่ผู้ที่ฝึกหลังจากคุณอาจจะพัฒนาตัวเองจนแซงหน้าคุณไปในที่สุด หลายคนที่ฝึกมาระยะหนึ่งอาจรู้สึกว่าได้พัฒนาตัวเองจนเกือบสุดทางแล้ว และเริ่มมองหาแหล่งความรู้ใหม่ๆ เพื่อพัฒนาตัวเองขึ้นไปอีก พวกเขาจะเดินทางไปฝึกบูจินกันที่ประเทศญี่ปุ่นกับอาจารย์ที่มีฝีมือสูงมากๆ เพื่อที่จะพัฒนาฝีมือของตัวเองให้สูงขึ้นไปอีก

Continue reading »

ตาดู หูฟัง กายสัมผัส รับรู้ด้วยใจกับการถ่ายทอดวิชา 3 อย่างในบูจินกัน

การเรียนรู้สามทาง  คนเราสามารถเรียนรู้ได้ 3 ทาง หนึ่งคือทางการมอง (Visual) สองคือการฟัง (Auditory) และสามคือการได้ทดลองทำ (Kinesthetic) เราเรียนรู้คณิตศาสตร์ ศิลปะ และภาษาอื่น ด้วยการดูว่าเขาทำอย่างไร ฟังในสิ่งที่เขาอธิบาย และทดสอบทำด้วยตัวเอง หากเรามีความตั้งใจ เราสามารถเรียนในห้องเรียน ผ่านวีดีโอ หรือระบบ

Continue reading »

เซนไปย์ (รุ่นพี่) เซนเซย์ (อาจารย์) ชิโดชิ (ผู้ชี้ทาง) 
และชิฮัน (บุคคลตัวอย่าง)

Senpai กับ Sensei คำศัพท์เหล่านี้เป็นคำศัพท์ภาษาญี่ปุ่นที่ผู้ฝึกศิลปะต่อสู้ญี่ปุ่นได้ยินอยู่เป็นประจำ พอเริ่มฝึกมาสักพักหนึ่งก็จะเริ่มรู้ว่า เซนไปย์ (Senpai 先輩) มีความหมายว่ารุ่นพี่ ในขณะที่เซนเซย์ (Sensei 先生) มีความหมายว่าอาจารย์ ถ้าดูตามตัวอักษรคันจิแล้วคำว่า sen (先)นั้นมีความหมายว่าก่อนหน้า  ส่วนคำว่า pai (輩) นั้นมีความหมายว่า พวกพ้อง ดังนั้น senpai

Continue reading »

อบรมการป้องกันตัวเบื้องต้นสำหรับสำหรับสุภาพสตรี เนื่องในวันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2558

ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับกิจกรรมดี ๆ ที่ได้ประกาศไปก่อนหน้านี้ของโรงฝึกบูจินกันประเทศไทย นั้นคือ การเปิดอบรมการป้องกันตัวเบื้องต้นสำหรับสำหรับสุภาพสตรี เนื่องในวันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2558 ซึ่งทางโรงฝึกโดยตัวผมเอง และสมาชิกท่านอื่นๆ ซึ่งเป็นหัวหน้าโรงฝึกของบูจินกันอื่น ๆ ในประเทศไทย ก็ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของกิจกรรมนี้ จึงได้ขออนุญาตจากอาจารย์เพื่อทำการเปิดอบรมครั้งนี้และก็ได้รับการชี้แนะจากอาจารย์ถึงประเด็นสำคัญของการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ จนกิจกรรมก็ได้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ซึ่งสำหรับกิจกรรมในครั้งนี้นั้น ทางโรงฝึกได้พยายามมุ่งเน้นถึงสิ่งต่าง ๆ ที่สำคัญ

Continue reading »

ประสบการณ์สอบสายดำระดับห้าที่ญี่ปุ่น

จากการที่ได้เดินทางไปฝึกและสอบที่ประเทศญี่ปุ่นได้พบเห็นหลายสิ่งหลายอย่างที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเทคโนโลยี, วัฒนธรรม, ความมีระเบียบวินัย ความมีมารยาทของผู้คนและที่ขาดไม่ได้คือประสบการณ์จากการฝึกและการสอบที่ทำให้หลายคนลุ้นจนตัวเกร็ง เริ่มจากการเดินทางครับ เมื่อถึงสนามบินนาริตะพอผ่านมาได้ก็รีบขึ้นรถไฟไปหาอาจารย์ตามที่ไดันัดหมายไว้จากนั้นก็ต่อรถไฟไปยังสถานี Minami Senju ปรากฏว่าต้องเดินไปที่พักอีก 650 เมตรครับ ลุยฝนเย็นเจี๊ยบยังกับน้ำในตู้เย็นพอถึงที่พักก็เปียกฉ่ำไปตามๆกัน หลังจากเช็คอินโรงแรมเรียบร้อย ก็ลุยฝนอีกรอบออกไปรับประทานอาหารเย็นกัน ขากลับก็ไม่ลืมที่จะแวะเซเว่นฯซื้ออาหารสำหรับมื้อเช้า จากนั้นเมื่อเข้าโรงแรมก็แยกย้ายกันพักผ่อนเพื่อเตรียมตัวลุยต่อในวันรุ่งขึ้นและแล้ววันแรกก็ผ่านไป หลังจากนั้นวันรุ่งขึ้นชีวิตก็มีแต่เดินๆๆขึ้นรถไฟแล้วก็เดินๆๆ ครับ เข้าใจแล้วครับที่

Continue reading »

เรื่องของระดับชั้น (Ranking)

  นี่คือความเห็นของผมเกี่ยวกับระดับสายในบูจินกัน อาจารย์มะซะอะกิ อยู่เหนือแนวคิดเรื่องระดับสายที่ไร้ค่า ท่านได้พูดถึงเรื่องสายในแบบของกีฬา และ ศิลปะต่อสู้หลายครั้งในหลายปีที่ผ่านมา ในบูจินกันมีมีแนวคิดที่เรียกว่า ซากิสุเคะ (Sakizuke) ซึ่งเป็นแนวทางที่ อ.มะซะอะกิ ได้รับสายสืบต่อมาจาก อ.ทะกะมะสึ ผมคิดว่า อ.มะซะอะกิให้ความเคารพ อ.ทะกะมะสึ และ ตัววิชาเป็นอย่างมาก ทำให้ท่านเข้าใจถึงสิ่งที่ อ.ทะกะมะสึ และตัววิชาต้องการจากท่านเป็นอย่างดี

Continue reading »

สรุปการเดินทางเข้าฝึกที่ญี่ปุ่นปี 2015 ตอนที่ 2

จากตอนแรกที่ได้เล่าให้ฟ้งโดยรวมถึงสิ่งที่พบเจอและทำให้ได้แนวคิดมุมมองของอาจารย์ที่ไม่เคยได้คิดถึงมาก่อนนั้น เช่นกันสำหรับตอนที่สองนี้ ผมยังได้แนวคิดที่ก่อนหน้านี้ ไม่เคยคิดเลยอีกจุดหนึ่งเช่นกัน แต่ต้องออกตัวก่อนว่าส่วนนี้เป็นแนวคิดส่วนตัวล้วน ๆ จากการเดินทางในครั้งนี้ต่างจากการไปครั้งที่แล้วพอสมควร ตื่นเต้นน้อยลงมีเวลาได้เห็นอะไรมากขึ้น ซึ่งรวมถึงบรรยากาศรอบตัวในการเข้ารับการฝึกใน Class ของอาจารย์มาซาอะกิ บรรยากาศที่ว่านี้หมายถึงช่วงระหว่างที่ทำการเปลี่ยนชุดฝึกเรียบร้อยแล้วและรออาจารย์มาซาอะกิเดินทางมาถึง สิ่งที่ผมสังเกตเห็นนี้คือ คือการปฎิบัติตัวของอาจารย์ ชิราอิชิและอาจารย์เอก ผมคิดว่าหลายคนอาจจะไม่เห็น เพราะเป็นการกระทำที่ธรรมดามากๆ ดูเหมือนเป็นการปฏิบัติที่ปกติ ผมขอเล่าเป็นเหตุการณ์ เริ่มต้นตั้งแต่เมื่อเดินทางถึงที่ถึงโรงฝึก

Continue reading »