บุรุษผู้อยู่เบื้องหลังหน้ากากนินจา:
บทสัมภาษณ์ปรมาจารย์วิชานินจา อาจารย์ฮะซึมิ
Black Belt: โดยส่วนมากแล้ว นินจาจะถูกนำเสนอในแง่มุมที่รุนแรง เป็นมือสังหารที่ใช้อาวุธเข่นฆ่าผู้อื่น ไม่ทราบว่าเรื่องนี้มีความเป็นจริงขนาดไหน
อาจารย์ฮัทสึมิ: นินจิตสึในมุมมองของสื่อมวลชน กับนินจาผู้ที่เป็นลูกศิษณ์ของผมนั้นต่างกัน ถ้าคุณลองมองดูลูกศิษย์ของผมแล้ว คุณจะพบว่าทุกคนมีความเป็นสุภาพชน กระแสของนินจาที่มีอยู่ในอเมริกานั้น เกิดขึ้นโดยที่ไม่มีใครได้ปรึกษาผมก่อน มีผู้คนอยู่มากมายไม่เพียงแต่ในอเมริกา แต่รวมถึงญี่ปุ่น ที่มีมุมมองที่ผิดเกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้ และฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ในมุมมองผิดๆเช่นนั้น มีคนอยู่หลายคนที่อ้างว่าสอนวิชานินจา แต่กลับไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับตัววิชา คนที่จะนำเสนอวิชานินจานั้น ควรจะต้องเป็นผู้คนที่ผ่านการฝึกฝนและทุ่มเทกับวิชา ไม่ใช่บุคคลที่เขียนเกี่ยวกับตัววิชา แต่ไม่ได้มีความรู้ที่แท้จริง นั่นเป็นสาเหตุที่ผมได้จัดทำหนังสือและวีดีโอ เพื่อที่จะเปลี่ยนมุมมองของผู้คนต่อศิลปะการต่อสู้นี้
Black Belt: อาจารย์ต้องการสื่ออะไรลงไปในวิชานินจุตสุ
อาจารย์ฮัทสึมิ: มีผู้คนมากมายที่ใช้ศิลปะการต่อสู้ในทางที่รุนแรง แต่โดยเนื้อแท้แล้วศิลปะการต่อสู้ไม่ได้เน้นไปที่ด้านนี้ สิ่งที่ผมสอนจะเน้นไปที่ว่า บุคคลหนึ่งควรที่จะฝึกอย่างไร เพื่อที่จะเป็นประโยชน์ต่อสังคมโดยรวม เริ่มแรก คุณต้องเรียนรู้ที่จะคงอยู่อย่างมนุษย์คนหนึ่ง การที่จะทำได้นั้น คุณต้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับธรรมชาติ สิ่งที่สำคัญในธรรมชาติคือสิ่งที่คุณมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า และสิ่งที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่านั้นเอง คือสิ่งที่ผมเน้นในศิลปะการต่อสู้ของผม สิ่งที่ผมสอนนั้นต่างจากสิ่งที่คุณเรียนในโรงเรียน สิ่งที่พวกคุณเรียนในโรงเรียนนั้นไม่เพียงพอที่จะมีชีวิตรอด มีหลายอย่างที่มนุษย์คนหนึ่งจะต้องเรียนรู้ และผ่านทางศิลปะการต่อสู้ คนได้เรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติ และเข้าใจถึงวิถีที่มนุษย์คนหนึ่งควรจะใช้ชิวิต
Black Belt: ไม่ทราบว่าไทจุตสึและการฝึกฝนใช้อาวุธ สามารถทำให้คนรักสงบได้อย่างไร
อาจารย์ฮัทสึมิ: บูโด ไม่ได้มีเฉพาะการต่อสู้อย่างเดียว จริงๆแล้ว คุณฝึกเพื่อที่จะได้ไม่ต้องต่อสู้ เมื่อคุณฝึกศิลปะการต่อสู้ คุณโดนชก โดนหักข้อต่อ ซึ่งแน่นอนคุณจะรู้สึกเจ็บ ซึ่งเวลานั้นแหละที่จะทำให้คุณเข้าใจว่า เมื่อผู้อื่นโดนกระทำ เขารู้สึกอย่างไร เช่นเดียวกับเวลาที่คุณทำผิดพลาดในชีวิต คุณจะเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่นมากขึ้น คุณไม่สามารถที่จะช่วยใครได้หรอก ถ้าคุณไม่รู้ว่าความเจ็บปวดรู้สึกอย่างไร ศิลปะการต่อสู้คือมนุษย์ นินจาไม่ใช่ผู้ร้าย แต่เป็นบุคคลหนึ่งที่ผ่านและเข้าใจความยากลำบากของชีวิตต่างหาก
Black Belt: เมื่ออาจารย์ยังหนุ่ม อาจารย์ผ่านการต่อสู้มาเยอะไหมครับ
อาจารย์ฮัทสึมิ: สมัยตอนเด็กๆ ผมทำสิ่งแย่ๆมาหลายอย่าง แต่หลังจากที่ได้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้แล้ว ผมก็หยุด บุคคลเดียวที่ผมเกรงกลัวคืออาจารย์ของผม ท่านเป็นบุคคลที่สูงส่งมาก เพียงแค่ได้มองดูท่าน ผมก็ไม่กล้าที่จะทำเรื่องแย่ๆอะไรทั้งนั้น ถึงทุกวันนี้อาจารย์ผมจะไม่อยู่แล้ว เพียงแค่ได้คิดถึงท่าน ผมก็ไม่กล้าทำเรื่องแย่ๆ และเมื่อใดที่ผมเหนื่อย เพียงแค่คิดถึงท่าน ผมก็หายเหนื่อย
Black Belt: ในที่สุด คนอเมริกันก็จะได้เรียนและสอนวิชานินจาของจริงซักทีใช่ไหมครับ
อาจารย์ฮัทสึมิ: ในตอนนี้ ลูกศิษย์ผมได้พัฒนาจนถึงขั้นที่ผมจะสอนอะไรจริงๆจังๆได้ซักที แต่ก่อนพวกเขาก็เหมือนเด็กๆ ตอนนี้พวกเขากลายเป็นผู้ใหญ่แล้ว ทำให้ผมสามารถสอนได้
Black Belt: การเผยแผ่วิชานินจาไปทั่วโลก มีความสำคัญอย่างไรกับอาจารย์ครับ
อาจารย์ฮัทสึมิ: โดยส่วนตัว ผมไม่ชอบที่จะบังคับใครให้ทำอะไร อันที่จริงแล้ว ผมพูดบ่อยๆว่า ผมไม่อยากสร้างองค์กรณ์อะไรทั้งนั้น มันไม่ใช่สิ่งที่ดี ผมคิดว่าการที่คนญี่ปุ่นมาถึงอเมริกาเพื่อที่จะทำเช่นนี้ มันไม่ค่อยถูกต้อง ถ้าประเทศคุณมีบุคคลที่มีศักยภาพพอที่จะทำเช่นนี้ได้ พวกเขาควรจะทำเอง ตอนนี้ผมก็อายุมากแล้ว แต่ถึงกระนั้น ถ้ามีใครขอร้องให้ผมมา ผมก็จะมา ความสัมพันธ์ของผมกับลูกศิษย์นั่นเป็นระหว่างบุคคลถึงบุคคล ผมมีคำตอบที่ผู้คนหา นั่นเป็นสาเหตุที่พวกเขาเข้ามาหาผม ผมแสดงความเป็นตัวตนของผม ผ่านศิลปะการต่อสู้ ผ่านการฝึกซ้อม ผมไม่พยายามดึงผู้คนเข้ามาหาศิลปะการต่อสู้ ผมแค่เดินทางไปรอบโลกเพื่อฝึกซ้อมกับผู้คนและแสดงตัวตนของผม และเมื่อผมได้ทำเช่นนี้ ผมรู้สึกยินดี
Black Belt: ระหว่างญี่ปุ่นกับอเมริกา ที่ไหนที่นินจุตสุแพร่หลายกว่ากันครับ
อาจารย์ฮัทสึมิ: ผมคิดว่าพอๆกันนะ ที่อเมริกา มีผู้คนมากมายมีโอกาสได้ฝึกศิลปะการต่อสู้ ที่ญี่ปุ่น ที่ดินมีราคาแพง เวลามีราคาแพง ทำให้ผู้คนมาฝึกศิลปะการต่อสู้ไม่สะดวก ก็น่าสงสารคนญี่ปุ่นเหมือนกันที่ความอิสระไม่ค่อยมี ในขณะเดียวกับ อเมริกาเป็นประเทศที่ใหญ่ คุณมีทั้งพื้นที่และเวลา ก็เหมือนกับปลูกต้นไม้นั่นแหละ ต้องการทั่งดินและเวลา คุณไม่สามารถปลูกอะไรได้เลย ถ้าไม่มีสองสิ่งนี้ ผู้คนที่เข้ามาหาผมทุกคน มีจิตใจที่ดีงามนะ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะคนเรามักลืมไปว่าจิตใจสำคัญกว่าปัญญา ถ้าจิตใจคุณแย่ ชีวิตคุณก็แย่ และเมื่อคุณปล่อยวางปัญหาลงได้ ชีวิตคุณก็ดีขึ้น มีคนเคยถามนักดนตรีชาวเยอรมันคนนึงว่า ศิลปะคืออะไร คำตอบก็คือ ความเรียบง่าย ชีวิตในศิลปะการต่อสู้ก็เช่นกัน เรียบง่าย
Black Belt: มีสิ่งไหนที่อาจารย์อยากจะได้จากศิลปะการต่อสู้อีกไหมครับ
อาจารย์ฮัทสึมิ: อันที่จริง ตอนนี้ผมรู้สึกว่าผมพร้อมที่จะจากไปทุกเมื่อ เพราะผมได้มอบศิลปะการต่อสู้ของผมเป็นมรดกกับโลกแล้ว ทุกครั้งที่ผมได้สอนในสัมมนา ก็เหมือนกับผมได้ทิ้งความต้องการของผมไว้ให้แล้ว นั่นคือหน้าที่ของผม ผมไม่ได้คิดที่จะขยายองค์กรณ์ของผมเลย
นี่คือสิ่งที่ลูกศิษย์ของผมยังเข้าใจผิดอยู่ ไม่เป็นไร เวลาผ่านไปพวกเขาจะเข้าใจเอง
อ้างอิง นิตยสาร Black Belt ฉบับ พฤศจิกายน 1994 หน้า 40-42